รัฐสภาสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่

ทรัมป์และปูติน

ที่มาของภาพ, Getty Images

คำบรรยายภาพ,

ประธานาธิบดีรัสเซียและประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือกันระหว่างการประชุมจี 20 ที่ผ่านมาในเยอรมนี

ผู้นำของทั้งสองสภาในสหรัฐฯ เห็นชอบในการออกกฎหมายเพื่อให้มีการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่แล้ว จากการที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ

กฎหมายใหม่นี้จะจำกัดความสามารถของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงอย่างมาก ในการยกเลิกการคว่ำบาตรใด ๆ ที่มีต่อรัสเซีย

เขาเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้น เพื่อดำเนินการทางการทูตกับรัฐบาลรัสเซีย

ข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียพยายามแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว ยังคงตามติดนายทรัมป์มาโดยตลอดในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่การสอบสวนสหรัฐฯ กำลังมองไปที่มีใครในทีมหาเสียงของนายทรัมป์สมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่ทางการรัสเซียหรือไม่

คำบรรยายวิดีโอ,

อ่านความรู้สึกผ่านภาษากายของปูตินและทรัมป์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อตกลงสองฝ่ายบ่งชี้ถึงความมุ่งมั่นในรัฐสภาสหรัฐฯ ในการต่อต้านรัสเซียไม่ว่านายทรัมป์จะมีความเห็นอย่างไรก็ตาม โดยประธานาธิบดีสามารถคัดค้านร่างกฎหมายนี้ได้ แต่ในการทำเช่นนั้นจะยิ่งเป็นการเพิ่มความน่าสงสัยว่าเขาสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียมากเกินไป

แต่ถ้าเขาลงนามในร่างกฎหมายนี้ เขาก็จะต้องบังคับใช้กฎหมายที่รัฐบาลของเขาต่อต้าน

วุฒิสมาชิกเบน คาร์ดิน ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตที่อาวุโสที่สุดในคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภา กล่าวว่า มีการบรรลุข้อตกลงนี้ หลังจาก "เจรจากันอย่างเข้มข้น"

"รัฐสภาที่เกือบเป็นเอกภาพส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังประธานาธิบดีปูติน แทนชาวอเมริกันทุกคนและชาติพันธมิตรของเรา เราจำเป็นต้องให้ประธานาธิบดีทรัมป์ช่วยเราส่งสาส์นนี้" เขากล่าว

ที่มาของภาพ, EPA

คำบรรยายภาพ,

สหรัฐฯ ยึดสถานที่ทางการทูต 2 แห่งของรัสเซียไว้จากการที่กล่าวหารัสเซียว่าแทรกแซงการเลือกตั้ง

ชัค ชูเมอร์ ผู้นำฝ่ายเดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะดำเนินการในร่างกฎหมายนี้ "อย่างทันท่วงที" ตามกฎของทั้งสองสภา" เขาระบุว่า ร่างกฎหมายคว่ำบาตรที่รุนแรง "มีความจำเป็น"

ร่างกฎหมายนี้จะครอบคลุมถึงความเป็นไปได้ของการลงโทษเพิ่มเติมต่ออิหร่านและเกาหลีเหนือด้วย ขณะนี้วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายนี้แล้ว และสภาผู้แทนราฎรมีกำหนดจะลงมติในวันอังคารนี้

ร่างกฎหมายนี้จะอนุญาตให้มีการใช้มาตรการลงโทษใหม่หลายอย่างต่อรัสเซียจากการที่ผนวกรวมไครเมียเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเมื่อปี 2014 รวมถึงการที่ถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ด้วย

สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการลงโทษต่อชาวรัสเซียและบริษัทของรัสเซียหลายแห่งต่อกรณีไครเมียมาแล้ว ส่วนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากที่มีการกล่าวหารัสเซียว่าล้วงข้อมูลการเลือกตั้งสหรัฐฯ นายบารัค โอบามา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ได้สั่งขับเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซีย 35 คนออกจากประเทศ และปิดสถานที่ของรัสเซีย 2 แห่งในสหรัฐฯ

ที่มาของภาพ, EPA

คำบรรยายภาพ,

ผู้นำสหรัฐฯ ลงข้อความทางทวิตเตอร์ว่า ตนมีอำนาจเต็มที่จะอภัยโทษให้ผู้ใดก็ได้

รัฐบาลรัสเซียเรียกร้องขอให้ทางการสหรัฐฯ ยุติการปิดสถานที่ทั้ง 2 แห่ง และขู่ว่าจะตอบโต้ด้วย "มาตรการเฉพาะเจาะจง" หลายอย่าง

หลังจากที่การเจรจาในระดับสูงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่ทางการรัสเซียคนหนึ่งที่เข้าร่วม กล่าวว่า ปัญหานี้ "เกือบ" จะได้รับการแก้ไขแล้ว

อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ จะทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์แก้ไขมาตรการลงโทษที่มีต่อรัสเซียได้ยากลำบากขึ้น รวมถึงการคืนทรัพย์สินทางการทูตที่ยึดไว้ให้แก่ทางการรัสเซีย หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา

ระหว่างการหาเสียง นายทรัมป์บอกเป็นนัยว่าเขาจะพิจารณาการยอมรับว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และจะยกเลิกการคว่ำบาตรรัสเซีย

เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ ยังคงสอบสวนความเป็นไปได้ในการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่างทีมงานของนายทรัมป์และรัสเซีย ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่นายทรัมป์ ปฏิเสธตลอดมา

ส่วนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า นายทรัมป์กำลังพิจารณาอภัยโทษให้แก่สมาชิกในครอบครัว ผู้ใกล้ชิด และแม้แต่ตัวเขาเอง

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีอำนาจในการอภัยโทษบุคคลก่อนที่จะถูกตัดสินว่าผิด หรือ แม้แต่ก่อนที่บุคคลจะถูกตั้งข้อหาอาชญากรรม