ส.ว.ไทย-อเมริกันอัดทรัมป์ ห้ามบุคคลข้ามเพศในกองทัพ

แทมมี ดักเวิร์ธ

ที่มาของภาพ, Scott Olson/Getty Images

ส.ว.ชาวอเมริกันเชื้อสายไทย ของรัฐอิลลินอยส์ พ.ท.หญิง แทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ แสดงความเห็นโต้แย้งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศทางทวิตเตอร์ว่า ห้ามไม่ให้บุคคลข้ามเพศทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯ

เช่นเดียวกับในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นจากการทวีตข้อความต่อกันหลายข้อความจากแอคเคาท์ @realDonaldTrump

โดยนายทรัมป์เริ่มประกาศทางทวิตเตอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (26 ก.ค.) ว่า "หลังจากหารือกับทหารชั้นนายพลและผู้เชี่ยวชาญหลายคน ขอประกาศให้ทราบว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่เปิดรับ หรืออนุญาตให้ผู้ที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้วเข้ารับราชการ"

เขาให้เหตุผลต่อในทวีตที่ตามมาว่า "กองทัพของเราต้องให้ความสนใจกับชัยชนะที่เด็ดขาด และไม่สามารถจะแบกภาระค่ารักษาพยาบาลสูง รวมถึงความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้นจากการมีบุคคลข้ามเพศ"

ประกาศดังกล่าวได้รับการตอบรับจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม และในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดยหนึ่งในผู้แสดงความเห็นไม่เห็นด้วยคือ แทมมี ลัดดา ดักเวิร์ธ ส.ว.รัฐอิลลินอยส์ พรรคเดโมแครต ซึ่งเป็น ส.ว.หญิงคนแรกของสหรัฐฯ ที่เคยทำงานในสนามรบจริง และได้สูญเสียขาในสงครามอิรักเมื่อปี 2004

ดักเวิร์ธ ตอบกลับประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ว่า ค่าใช้จ่ายการแพทย์ที่ทรัมป์อ้างนั้นคิดเป็นแค่ร้อยละ 0.13 ของงบประมาณทหารเท่านั้น และ "มันเป็นเรื่องที่แก้ตัวไม่ได้ที่จะใช้ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เป็นเหตุผลในการงดเว้นการรักษาพยาบาลต่อคนที่เสียสละชีวิตเพื่อประเทศ ในขณะที่ทรัมป์พยายามจะทำให้ระบบประกันสุขภาพในประเทศมีราคาสูงขึ้นและครอบคลุมน้อยลง"

"ในฐานะคนที่เคยทำงานในสนามรบ ฉันจะบอกอะไรคุณสักอย่าง: ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์คของฉันถูกยิงตก ฉันไม่ได้สนใจถึงตัวตนทางเพศของเหล่าทหารที่กำลังเสี่ยงชีวิตมาช่วยฉัน ฉันสนแค่เพียงว่าพวกเขาคือพลทหารอเมริกัน และพวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อจะช่วยชีวิตฉัน" ดักเวิร์ธเขียนบนเฟซบุ๊ก

ที่มาของภาพ, Alex Wong/Getty Images

"หากคุณยินดีที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศและคุณสามารถทำงานได้ กองทัพควรจะต้อนรับคุณเพราะว่าคุณสามารถช่วยให้ประเทศเราปลอดภัย จบแค่นั้นเลย" เธอกล่าวทิ้งท้าย

ดักเวิร์ธ นับเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายไทยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ หลังจากเอาชนะ มาร์ค เคิร์ก จากพรรครีพับลิกัน ในการเลือกตั้งเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ข้อความดังกล่าวของเธอได้รับการส่งต่อไปแล้วกว่า 2 พันครั้ง

เมื่อปีที่แล้วภายใต้การบริหารของโอบามา สหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้บุคคลข้ามเพศรับใช้กองทัพได้อย่างเปิดเผย แต่เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ตกลงที่จะชะลอการรับบุคคลข้ามเพศเข้าทำงานในกองทัพเป็นเวลา 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม นางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวบอกกับนักข่าวว่า มาตรการดังกล่าวจะยังไม่มีผลทันที และยังต้องมีการปรึกษาหารือถึงนโยบายในการบังคับใช้

ที่มาของภาพ, Youtube/BBC Thai

คำบรรยายภาพ,

ปานหนุ่ย ธาตุไพบูลย์ เล่าให้บีบีซีไทยฟังถึงประสบการณ์ในฐานะคนข้ามเพศที่ผ่านกระบวนการเกณฑ์ทหารเมื่อหลายปีก่อน

สำหรับการรับราชการทหารในประเทศไทย จากข้อมูลของกองการสัสดี กำหนดลักษณะของบุคคลในกลุ่มผู้หญิงข้ามเพศ หรือ กลุ่ม LGBTQ ถือเป็นหนึ่งใน "ภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด" (Gender Identity Disorder" ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 75 (พ.ศ. 2555) ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ.2518) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497

ภายใต้กฎกระทรวงดังกล่าว ในการเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ หรือ "ทหารเกณฑ์" ผู้ที่เข้าข่ายภาวะเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด จำเป็นต้องมีใบรับรองทางการแพทย์เพื่อพิสูจน์ว่าจัดอยู่ในกลุ่มภาวะดังกล่าว ยกเว้นกลุ่มที่ผ่านการแปลงเพศมาแล้ว