นายกฯ ปากีสถานลาออก หลังถูกศาลตัดสินขาดคุณสมบัติ

ที่มาของภาพ, Getty Images
ศาลสูงสุดของปากีสถานรับฟ้องคดีทุจริตที่มีต่อนายชารีฟ
นายนาวาซ ชารีฟ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของปากีสถานแล้ว หลังจากศาลสูงสุดตัดสินว่าเขาขาดคุณสมบัติในการเป็นนายกรัฐมนตรี สืบเนื่องมาจากการเปิดเผยของแฟ้มลับปานามา (Panama Papers) ที่เปิดโปงว่าลูกของเขาเป็นเจ้าของบริษัทในต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลนี้ไม่ปรากฏอยู่ในรายการทรัพย์สินของครอบครัว ด้านน้องชายของเขาซึ่งเป็นมุขมนตรีแคว้นปัญจาบอาจได้รับเลือกขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีระบุในแถลงการณ์ว่า "หลังจากศาลมีคำตัดสิน นายนาวาซ ชารีฟ ได้ลาออกจากการรับผิดชอบต่าง ๆ ในฐานะนายกรัฐมนตรี"
นายชารีฟ ปฏิเสธการกระทำผิดทุกอย่างในคดีนี้มาโดยตลอด ขณะที่ผู้พิพากษาทั้ง 5 คนในองค์คณะต่างมีเสียงเป็นเอกฉันท์ในคำตัดสินว่านายชารีฟ ขาดคุณสมบัติ โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาในกรุงอิสลามาบัดระหว่างการอ่านคำตัดสินของศาลในวันนี้ (28 ก.ค.)
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เอจาซ อัฟซาล ข่าน หนึ่งในผู้พิพากษาของศาลสูงสุด กล่าวว่า นายชารีฟ "ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นสมาชิกอันทรงเกียรติที่สุดของรัฐสภา" อีกต่อไปแล้ว
ที่มาของภาพ, Reuters
ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านแสดงความดีใจหลังศาลอ่านคำพิพากษา
ก่อนหน้านี้นายชอดรี นิซาร์ อาลี ข่าน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน แนะนำให้นายชารีฟ ยอมรับคำตัดสินในศุกร์
ศาลได้รับฟ้องคดีต่อต้านการทุจริตที่มีต่อบุคคลต่าง ๆ จำนวนมาก รวมถึง นายชารีฟ, นางมารีอัม บุตรสาว และนายซัฟดาร์ บุตรเขยของนายชารีฟ, นายอิชัก ดาร์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และอีกหลายคน
นายชารีฟ ซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 3 เหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งปีก็จะครบวาระการดำรงแหน่ง ซึ่งหากเขาดำรงตำแหน่งจนถึงตอนนั้น เขาจะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของปากีสถานที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ
โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 2 ครั้งคือ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 1990 ถึงกรกฎาคม 1993 และตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1997 จนกระทั่งถูกโค่นล้มในการทำรัฐประหารที่ปราศจากการนองเลือดเมื่อเดือนตุลาคม 1999
ปัจจุบัน ยังไม่มีนายกรัฐมนตรีพลเรือนของปากีสถานที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 5 ปี
นายชารีฟ เผชิญกับข้อกล่าวหาทุจริตมาตั้งแต่ทศวรรษ 1980 และข้อมูลจากแฟ้มลับปานามาที่ถูกเปิดเผยมาจากการไต่สวนในช่วงกลางทศวรรษ 1990
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?
ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าใครจะขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจากนายชารีฟ แต่นายเชห์บาซ น้องชายของเขา ซึ่งเป็นมุขมนตรีแคว้นปัญจาบได้รับการจับตามองว่าเป็นตัวเก็ง
พรรคปากีสถานมุสลิมลีก-นาวาซ (PML-N) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของปากีสถาน จะได้รับอนุญาตจากประธานรัฐสภาในการเลือกนายกรัฐมนตรีรักษาการเพื่อบริหารประเทศจนกว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2018
ที่มาของภาพ, EPA
ซิราช อุล ฮัก (ซ้าย) หัวหน้ากลุ่มจามาอัต-อี-อิสลามี มอบขนมให้แก่ผู้สนับสนุนฝ่ายค้าน
คาดว่าพรรค PML-N ซึ่งมีจำนวนที่นั่งมากที่สุดในรัฐสภา จะออกแถลงการณ์ในวันนี้ (28 ก.ค.) ด้านพรรคฝ่ายค้านต่าง ๆ จะมีโอกาสในการเสนอชื่อผู้สมควรได้รับการคัดเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการเช่นกัน
ศาลได้สั่งให้สำนักปราบปรามการทุจริตแห่งชาติรวบรวมและส่งเอกสาร 4 ชิ้นส่งให้แก่ศาลปราบปรามการทุจริตที่พิจารคดีนายชารีฟ และคนอื่น ๆ ภายใน 6 สัปดาห์ ก่อนหน้าที่จะมีการไต่สวนคดีทุจริตเกิดขึ้น ซึ่งต้องแล้วเสร็จภายใน 6 เดือน
แฟ้มลับปานามาเปิดเผยอะไรบ้าง?
ภาพจากสื่อท้องถิ่นในวันนี้ (28 ก.ค.) แสดงให้เห็นฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันที่ด้านนอกศาลสูงสุดในกรุงอิสลามาบัด และส่งเสียงแสดงการสนับสนุนการตัดสินของศาล
รายงานข่าวระบุว่า ขณะที่กำลังมีการอ่านคำตัดสิน ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านได้ตบมือ และพากันออกไปตะโกนบนท้องถนน และแจกลูกกวาด
ตำรวจและทหารกำลังเสริมรวมประมาณ 3,000 นายถูกส่งมารักษาความปลอดภัยในบริเวณใกล้เคียงและโดยรอบศาลสูงสุด
ที่มาของภาพ, Getty Images
มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่ด้านนอกศาลสูงสุดของปากีสถานก่อนที่จะมีการอ่านคำพิพากษา
การตัดสินที่เกิดขึ้นถือเป็นจุดสูงสุดของเรื่องราวที่ปรากฏอยู่ในการรายงานข่าวและในการถกเถียงกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์มานานหลายเดือน และทำให้มีทั้งผู้ออกมาเยาะเย้ยเหยียดหยาม และแสดงการสนับสนุนนายชารีฟอย่างตรงไปตรงมา
นายชารีฟ ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่สูญเสียตำแหน่งจากข้อมูลรั่วไหลของบริษัทกฎหมายของปานามา
นายกรัฐมนตรีของไอซ์แลนด์ จำเป็นต้องลาออกหลังจากปรากฏเอกสารที่เปิดเผยว่าเขาและภรรยาปกปิดการลงทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบริษัทต่างประเทศ