จีนเอาคืนขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 9 หมื่นล้านบาท

คนซื้อเนื้อหมูที่จีน

ที่มาของภาพ, STR/AFP/Getty Images

คำบรรยายภาพ,

จีนเป็นตลาดสินค้าส่งออกอันดับสามของสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 โดยถือเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่นำเข้าเนื้อหมูด้วย

รัฐบาลจีนประกาศกำหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงถึงร้อยละ 25 สำหรับการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รวม 128 รายการ มูลค่าประมาณ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 93,400 ล้านบาท) ซึ่งรวมเนื้อหมูและไวน์

มาตรการตอบโต้นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ (2 เม.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากต่างประเทศเมื่อ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อรีดภาษีนำเข้าจากจีน 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.86 ล้านล้านบาท)

รัฐบาลจีนกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปเพื่อ "ปกป้องผลประโยชน์ของจีนและทำให้เกิดความสมดุล" จากความสูญเสียที่มีสาเหตุจากอัตราภาษีศุลกากรใหม่ของสหรัฐฯ

ก่อนหน้าจีนระบุว่า ไม่ต้องการให้เกิดสงครามทางการค้า แต่จะไม่อยู่เฉยหากเศรษฐกิจของจีนได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานว่า "สงครามทางการค้าเป็นเรื่องดี" และมันเป็นเรื่องง่ายมากที่สหรัฐฯ จะเอาชนะได้

ที่มาของภาพ, EPA

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรที่กำหนดเป้าหมายไว้เป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อต่อต้านแนวทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากประเทศจีน โดยเฉพาะการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาซึ่งส่งผลกระทบต่อบริษัทของสหรัฐฯ

สินค้าของสหรัฐฯ อะไรบ้างที่ได้รับผลกระทบ

  • เศษอะลูมิเนียม และหมูแช่แข็ง ถูกเพิ่มกำแพงภาษี 25%
  • ถั่ว ผลไม้สด ผลไม้แห้ง โสม ไวน์ ถูกเพิ่มกำแพงภาษี 15%
  • เหล็กแท่ง ถูกเพิ่มกำแพงภาษี 15%

ในทางทฤษฎี รัฐบาลจีนสามารถเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เช่น แอปเปิล ได้ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็อาจทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องขึ้นราคาสินค้าเพื่อชดเชย ซึ่งเท่ากับเป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค

ด้านรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์เช้าวันนี้ (2 เม.ย.) ระบุว่า สหรัฐฯ ได้ "ละเมิดอย่างร้ายแรง" ต่อหลักการไม่เลือกปฏิบัติในกฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) และได้ทำลายความสนใจในการลงทุนของจีน