ได้ดีทั้งที่ไม่ทำงาน งานวิจัยชี้ คนพวกนี้ ถ่วงองค์กรโดยรวม

Office worker

ที่มาของภาพ, Getty Images

โดย ฌอห์ณ ค็อกแลน

ผู้สื่อข่าวบีบีซี

คุณอาจจะมีเพื่อนร่วมงานลักษณะนี้ ที่ชอบเขียนอีเมลที่พูดแต่เรื่องตัวเอง หรือชอบโอ้อวดในที่ประชุม วิทยาลัยธุรกิจทำการวิจัยซึ่งเผยว่า จะมีพนักงานประเภทหนึ่งที่สามารถทำตัวเองให้ดู "ยุ่งและประสบความสำเร็จ" โดยที่จริง ๆ แล้วไม่ได้ทำอะไรที่มีประโยชน์เลย

งานวิจัยซึ่งศึกษาด้านความสามารถในการผลิต ได้เข้าไปเก็บข้อมูลในที่ทำงานในสหราชอาณาจักร 28 แห่ง และพบว่าในขณะที่พนักงานบางคนดู "จดจ่อกับงานมาก" แต่เมื่อดูดี ๆ แล้ว พวกเขาเป็นคนประเภทที่ชอบ "โปรโมต" ตัวเอง ซึ่งการไม่ตั้งใจทำงานของพวกเขาทำให้ผลผลิตโดยรวมเสียไปด้วย

งานวิจัยจากสถาบันแอชริดช์ (Ashridge) ที่วิทยาลัยธุรกิจนานาชาติฮัลท์ (Hult International Business School) ศึกษาการมีส่วนร่วมในงานในองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ สาธารณสุข การขนส่ง และองค์กรไม่หวังกำไร

งานวิจัยพบว่า พบปัญหาราวหนึ่งในห้าทีมที่มีคนในทีมที่ดูเหมือนจะทุ่มเทให้กับงาน แต่ระดับความร่วมมือร่วมใจและความสามารถในการผลิตต่ำ หลังจากศึกษาลึกลงไปแล้ว พนักงานมีปัญหาเนื่องจากคนที่ "รู้เกม" แต่ทำอะไรไม่เสร็จ ทำให้เสียงาน

พนักงานเหล่านี้อาจจะไปเข้าประชุมอย่างสม่ำเสมอ และก็ร่วมวงสนทนาที่มีประโยชน์ต่อตัวเอง แต่นอกจากเล่นไปตามเกม "วัฒนธรรมบริษัท" แล้ว ก็ดูยากมากว่าพวกเขาทำอะไรสำเร็จบ้าง

หากทำงานเป็นกะ พวกเขาเหล่านี้ก็จะสามารถยืดเวลาไปเรื่อยแต่ใส่ความพยายามให้น้อยที่สุด นักวิจัยเรียกเขาเหล่านี้ว่าพวก "ดูเหมือนยุ่ง"

ไม่ทำงานแต่ก้าวหน้า

เอมี อาร์มสตรอง นักวิจัยอาวุโส บอกว่า พนักงานที่เห็นแก่ตัวทำให้ความร่วมมือร่วมใจในทีมและความสามารถในการผลิตผลงานเสีย และเป็นผลกระทบในเชิงลบต่อธุรกิจ

ที่มาของภาพ, Getty Images

ดร.อาร์มสตรองบอกว่า อาจเป็นที่ระบบการบริหารงานที่เป็นประโยชน์ต่อพวก "ดูเหมือนยุ่ง" ได้

"พวกเขาได้รับผลตอบแทนจากพฤติกรรมที่ผิดปกตินี้" ดร.อาร์มสตรอง กล่าว

พวกเขามีแนวโน้มจะได้โบนัสและเงินเดือนมากกว่า ทุ่มเทให้กับความก้าวหน้าของหน้าที่การงานตัวเองและทำให้ผลผลิตโดยรวมของบริษัทเสีย

นี่เป็นเพราะบ่อยครั้งที่พนักงานเหล่านี้ใช้เวลาไปกับการโปรโมตตัวเองในที่ประชุมและก็ได้รับความดีความชอบมากกว่าคนที่ทำงานจริง ๆ

ในที่ทำงานลักษณะนั้น ภายนอกอาจจะดูเหมือนพนักงานมีความตั้งใจและสนับสนุนเพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย แต่จริง ๆ แล้ว นักวิจัยพบว่ามีระดับความเชื่อใจและการร่วมมือต่ำ และนี่อาจทำให้พนักงานรู้สึกเหนื่อยล้า ไร้ความสามัคคี

ดร.อาร์มสตรอง บอกว่า ในที่ทำงานลักษณะนี้ จะมีความรู้สึกว่า ความร่วมมือร่วมใจไม่มีประโยชน์เพราะมีบางคนที่ดูเหมือนจะได้ผลประโยชน์จากการโปรโมตตัวเอง