โควิด-19 : นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อาการดีขึ้น ขณะรักษาตัวในห้องไอซียูหลังล้มป่วยจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ที่มาของภาพ, EPA
นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษมี "อาการดีขึ้น" หลังถูกนำตัวเข้าห้องไอซียู เนื่องจากอาการทรุดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ในการแถลงข่าวประจำวันที่ 8 เม.ย. นายริชี่ สุนัค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายจอห์นสัน ซึ่งยังคงรักษาตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยอาการวิกฤตนั้น มีอาการดีขึ้น
"ท่านนายกฯ สามารถลุกขึ้นนั่งบนเตียง และมีการตอบสนองที่ดีกับทีมแพทย์"
นายสุนัค ชี้ว่า การเข้าโรงพยาบาลของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ "เป็นเครื่องเตือนใจพวกเราว่าโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน" และ "แทบทุกคนจะรู้จักกับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้"
"เชื้อไวรัสที่ร้ายกาจตัวนี้ไม่เคารพขอบเขตใด ๆ ...แต่พวกเราไม่ได้เผชิญหน้ากับมันตามลำพัง" นายสุนัค กล่าว
ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. โฆษกทำเนียบนายกรัฐมนตรี ระบุในแถลงการณ์ว่า นายจอห์นสัน วัย 55 ปี มีอาการคงที่ขณะรักษาตัวในห้องไอซียูเมื่อวันที่ 6 เม.ย. โดยแพทย์ได้ให้ออกซิเจนเขาตามการรักษาปกติ และเขาสามารถหายใจได้เอง โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่มีภาวะปอดอักเสบ
เมื่อวันที่ 5 เม.ย นายจอห์นสัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเซนต์โทมัสในกรุงลอนดอนเมื่อค่ำวานนี้ เพราะยังคงมีอาการป่วยจากโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาการไข้สูง หลังจากได้รับการตรวจว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เมื่อ 10 วันก่อน
บอริส จอห์นสัน "กำลังใจดี" ขณะรักษาตัวในห้องไอซียู
เส้นทางนายกฯ
เมื่อ ก.ค. ปีที่แล้ว นายบอริส จอห์นสัน ได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคคอนเซอร์เวทีฟให้ดำรงตำแหน่ง หัวหน้าพรรคคนใหม่แทน นางเทรีซา เมย์ ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา การขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ทำให้นายจอห์นสัน ได้สืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจากนางเมย์
ที่มาของภาพ, Reuters
นายจอห์นสัน เคยดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลภายใต้การนำของนางเมย์ ทั้งยังเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการรณรงค์ ให้สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู)
หลังการประกาศผล นายจอห์นสันกล่าวต่อหน้าสมาชิกพรรคว่าจะทำให้อังกฤษก้าวต่อไป ด้วยการพัฒนาทั้งด้านการศึกษา ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน เพิ่มกำลังตำรวจ และให้ทุกครัวเรือนเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (บรอดแบนด์) รวมทั้งรับปากจะทำให้อังกฤษมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ยังรับปากจะเดินหน้าเรื่องการถอนตัวออกจากอียู และจะทำให้นายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคเลเบอร์ ต้องพบกับความพ่ายแพ้
หลังเข้ารับตำแหน่ง นายจอห์นสันต้องพบกับความล้มเหลวในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งในการผลักดันร่างข้อตกลงแยกตัวออกจากอียู เขาจึงประกาศจัดการเลือกตั้งใหม่เมื่อ 13 ธ.ค. ปีที่แล้ว
นโยบายหลักของ นายบอริส จอห์นสัน ในการหาเสียงครั้งนี้ คือ ผลักดันให้สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ให้สำเร็จ หรือ Get Brexit Done ทำให้ พรรคคอนเซอร์เวทีฟ ได้คะแนนเสียงท่วมท้น มากกว่าผลการเลือกตั้งปี 2017 และถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดนับตั้งแต่ปี 1987 แม้ประชาชนผู้ใช้สิทธิจำนวนมากที่เคยลงประชามติต้องการออกจากอียู ก็มายกมือให้กับผู้สมัครพรรคคอนเซอร์เวทีฟ
ที่มาของภาพ, Getty Images