โควิด-19: หมอเยเมนทิ้งโรงพยาบาล หวั่นติดเชื้อ
ช่วงที่การระบาดของโควิด-19 เลวร้ายถึงขีดสุดในเยเมน มีโรงพยาบาลที่ยังเปิดทำการอยู่เพียงแห่งเดียวในเมืองเอเดน ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1 ล้านคน การหวาดกลัวต่อโควิดและการไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนตัวให้ใช้งาน ทำให้แพทย์ส่วนใหญ่ทิ้งโรงพยาบาล ยกเว้น พญ.โซฮา ที่กลายเป็นหนึ่งในแพทย์ไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในเมืองเพื่อรักษาคนไข้โควิดในช่วงแรกของการระบาด
บีบีซีได้เป็นสถานีโทรทัศน์ต่างชาติแห่งแรกที่ได้เข้าไปถ่ายทำเรื่องราวในเยเมน หลังมีการระบาดมานาน 6 เดือน เพื่อดูว่าคนรับมือกับโรคระบาดนี้อย่างไร
เมืองแห่งนี้กำลังเศร้าโศก เรื่องราวที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังคงตามหลอกหลอน ลองนึกดูว่า การเผชิญกับการระบาดใหญ่ของโรคร้ายแรงในดินแดนที่แทบไร้โรงพยาบาลจะเป็นอย่างไร
นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเมืองเอเดนของเยเมน
ขณะที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด อาลี พ่อของอับเดลคารีม ล้มป่วยลง
"ผมสังเกตเห็นว่า พ่อมีอาการอ่อนเพลีย ผมคิดว่าเป็นอาการของไข้หวัดธรรมดาหรือไข้หวัดใหญ่" อับเดลคารีมเล่า
เขาพาพ่อส่งโรงพยาบาล หมอนำพ่อเขาไปเอกซเรย์และวินิจฉัยว่าติดเชื้อรุนแรงที่ทรวงอก จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างผู้ป่วยหนัก แต่หมอบอกว่าเขาอยู่โรงพยาบาลไม่ได้ เพราะโรงพยาบาลจะไม่รับผู้ป่วยลักษณะนี้ เพราะอาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
อับเดลคารีมตระเวนไปตามโรงพยาบาลถึง 5 แห่ง แต่ไม่มีแห่งไหนยอมรักษาพ่อของเขาเลย เพราะกลัวไวรัสนี้และไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อส่วนบุคคลใช้งาน
หมอส่วนใหญ่ละทิ้งโรงพยาบาลทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ต้องปิดตัวลง ยกเว้นเพียงแห่งเดียว
พญ.โซฮาเป็นหนึ่งในหมอประจำโรงพยาบาลแห่งนี้ที่ยังอยู่รอรักษาคนไข้โควิด-19 อับเดลคารีมพบเธอ หลังจากตามหาตัวเธอนาน 1 สัปดาห์
"เขาบอกว่า พ่อของเขากำลังจะตายและขอร้องให้เรารับรักษาพ่อของเขา ฉันบอกว่าที่นี่ไม่มีเตียง ไม่มีออกซิเจน" พญ.โซฮาเล่า
แพทย์หญิงผู้นี้เล่าต่อว่า "พ่อของเขามีอาการทรุดลงและหายใจแทบไม่ได้ เขาได้แต่ตะโกนว่า 'พ่อของผมกำลังจะตาย หมอ ได้โปรดเถอะ!' ไม่มีอะไรที่ฉันจะช่วยเขาได้ นอกจากการรับพ่อเขาไว้ และใส่หน้ากากออกซิเจนให้"
พ่อของอับเดลคารีมเสียชีวิตในอีก 15 นาทีต่อมา
รัฐบาลเยเมนไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะยุ่งอยู่กับการต่อสู้ในแนวรบ 2 ด้าน คือสงครามสู้รบกับกลุ่มกบฏฮูธิที่ดำเนินมานาน 6 ปี ทางตอนเหนือ และการปะทะกับกองกำลังที่ยูเออีสนับสนุนเพื่อแย่งกันควบคุมเมืองเอเดน
ขณะที่โควิด-19 แพร่ระบาดไปทั่วทั้งเมือง คนตายถูกนำมาฝังที่สุสานอัลรัดห์วัน
กัสซัน อาห์เหม็ด สัปเหร่อที่สุสานแห่งนี้กล่าวว่า "มันไม่ใช่เรื่องปกติ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ มันเลวร้ายยิ่งกว่าสงคราม"
การฝังศพแต่ละศพ ต้องมีเอกสารอนุญาต ก่อนหน้าโควิด-19 กัสซันฝังศพวันละประมาณ 10 ศพ
"เราคุ้นเคยกับการรับศพ แต่ไม่ใช่แบบนี้ ในเวลาแค่ 1 เดือน ผมฝังไปแล้วราว 1,500 ศพ" กัสซันกล่าว
ตลอดหนึ่งเดือนเต็ม คนไข้ทุกรายที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ พญ.โซฮาประจำการอยู่มีจุดจบที่สุสานแห่งนี้ จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ องค์กรแพทย์ไร้พรมแดนหรือ MSF จึงได้เข้ามาช่วยเหลือ
"ก่อน MSF เข้ามา คนไข้ทุกคนที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลล้วนกลับออกไปในถุงเก็บศพสีขาว ตอนนี้คนไข้บางส่วน มีชีวิตรอด มันแตกต่างกันราวกับนรกและสวรรค์" พญ.โซฮากล่าว
ด้วยจำนวนคนไข้ที่ลดลง MSF ได้ส่งมอบการดูแลโควิด-19 คืนให้กับรัฐบาลเยเมน ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผู้คนหวาดวิตกว่าอาจมีการระบาดระลอกที่สอง
"ผมกลัวมาก ทุกคนต่างหวาดกลัว เพราะในประเทศนี้ เราไม่มีคนรับผิดชอบ ถ้าเกิดการระบาดระลอกสอง ผมกลัวว่า ลูกชาย ลูกสาว ภรรยา และพี่ชาย พวกเขาจะตายกันหมด" อับเดลคารีมกล่าว