โควิด-19: ไทยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอย่างน้อย 3 รายภายใน 1 สัปดาห์

สนามบิน

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

ผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนทั้ง 3 รายที่พบในไทยจนถึงวันที่ 9 ธ.ค. เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ สธ.ยืนยันว่ายังไม่พบการติดเชื้อในประเทศ

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่พบในไทยเพิ่มเป็น 3 รายภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันวันนี้ (9 ธ.ค.) ว่าผลการตรวจสายพันธุ์ของเชื้อโควิดจากผู้ป่วยหญิงไทย 2 รายที่เดินทางกลับจากประเทศไนจีเรียเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องสงสัยรอยืนยันอีก 1 ราย เป็นชายไทยอายุ 41 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติที่เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เข้าไทยผ่านระบบ Test&Go

เมื่อวานนี้ (8 ธ.ค.) กรมควบคุมโรคให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วย 2 รายนี้ว่า เป็นล่ามคนไทยเพศหญิง อายุ 36 และ 46 ปี ที่เดินทางไปร่วมการประชุมด้านคริสตจักรที่ประเทศไนจีเรียช่วงปลายเดือน พ.ย. และเดินทางกลับเข้าไทยเมื่อวันที่ 23 พ.ย.

ผู้ป่วยทั้งสองรายนี้ได้ตรวจ RT-PCR ที่ไนจีเรียเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ผลตรวจเป็นลบทั้งหมด เมื่อเดินทางกลับมาถึงไทยก็เข้าสู่กระบวนการกักตัว เริ่มมีอาการเจ็บคอเล็กน้อยและไอ ผลตรวจ RT-PCR เป็นบวกทั้งคู่ และได้นำตัวไปรักษา ขณะนี้อยู่ระหว่างสังเกตอาการเพิ่มเติมจนถึงวันที่ 11 ธ.ค.

เนื่องจากองค์การอนามัยโลกได้ยกระดับให้สายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล จึงได้มีการนำตัวอย่างของผู้ป่วยทั้งสองรายมาถอดรหัสพันธุ์กรรมซึ่งผลออกมาว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน

ทั้งนี้ การสอบสวนโรคพบว่าผู้ป่วยทั้งสองรายยังไม่ได้รับวัคซีนจึงมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ และยังมีการทำกิจกรรมโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวับผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโอมิครอนอีก 1 ราย ว่าเป็นชายไทย อายุ 41 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติที่เดินทางกลับมาจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก เข้าไทยผ่านระบบ Test&Go ผลการตรวจเชื้อเบื้องต้น "มีโอกาสที่จะเป็นโอมิครอน"

ทำให้ขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อโอมิครอนสะสม 3 ราย และรอยืนยันผลอีก 1 ราย นับตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค. ที่ สธ. แถลงข่าวยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอมิครอนในไทยรายแรก เป็นชายไทย สัญชาติอเมริกันที่เดินทางมาจากประเทศสเปน โดยไทยนับเป็นประเทศที่ 47 ของโลกที่พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน

ที่มาของภาพ, Thai News Pix

คำบรรยายภาพ,

องค์การอนามัยโลกประกาศให้เชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลในวันเดียวกับที่ไทยผ่อนคลายมาตรการการเข้าประเทศเมื่อ 26 พ.ย. 2564

อย่างไรก็ตาม นพ.ศุภกิจกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบการติดเชื้อโอมิครอนภายในประเทศ และผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และขณะนี้เดลตายังเป็นสายพันธุ์หลักที่พบในไทย

สำหรับข้อสงสัยที่ว่าหากเชื้อโอมิครอนมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 แล้วจะทำให้ตรวจพบเชื้อยากขึ้นหรือไม่นั้น นพ.ศุภกิจอธิบายว่าสายพันธุ์ย่อยที่พบนั้นยังคงมีลักษณะคล้ายคลึงสายพันธุ์เดิม ขณะที่เครื่องมือและวิธีการตรวจในปัจจุบันยังสามารถตรวจจับเชื้อโอมิครอนได้อยู่ เพราะมีการตรวจยีนถึง 4 ตำแหน่ง

ข้อมูล ณ วันที่ 9 ธ.ค. มีประเทศที่พบผู้ติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 59 ประเทศ

ไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนรายที่ 2 และ 3

ผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 46 ปี อาชีพล่ามประจำคริสตจักรแห่งหนึ่ง ยังไม่ได้รับวัคซีน

  • 13 - 23 พ.ย. เข้าร่วมประชุมตัวแทนคริสตจักร เมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย
  • 21 พ.ย. ก่อนเดินทางกลับได้ตรวจ RT-PCR ที่ไนจีเรีย ผลเป็นลบ
  • 23 พ.ย. เริ่มป่วย ไอ เจ็บคอเล็กน้อย
  • 24 พ.ย. เดินทางถึงไทยในช่วงเช้า ก่อนที่จะเข้ากักตัวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ผลตรวจ RT-PCR พบติดเชื้อ
  • 25 พ.ย. รักษาตัวที่ Hospitel ได้รับยาตอเนื่อง

ส่วนผู้ติดเชื้อโอมิครอนรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 36 ปี อาชีพล่ามประจำคริสตจักรแห่งหนึ่ง ยังไม่ได้รับวัคซีนเช่นกัน และเคยติดโควิด-19 มาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

อัพเดทสถานการณ์โควิดในไทย

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทยในรอบ 24 ชั่วโมง จากการรายงานของ ศบค. พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,203 ราย เป็นการติดเชื้อในเรือนจำ 42 ราย และผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 18 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมนับแต่มีการระบาดอยู่ที่ 2,156,587 ราย ผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวอยู่ 60,415 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,175 ราย และต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ 320 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 49 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ ม.ค. 2563 อยู่ที่ 21,084 ราย

จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ (853 ราย) นครศรีธรรมราช (281 ราย) สงขลา (192 ราย) ชลบุรี (170 ราย) และปัตตานี (154 ราย

สำหรับข้อมูลการเข้ารับบริการวัคซีนโควิด-19 ถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 8 ธ.ค. ยอดสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. มีการให้บริการสะสมไปแล้ว 96,341,748 โดส